ประกันสุขภาพสามารถช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีและเป็นส่วนสำคัญของรักษาสุขภาพทางการเงินด้วย ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพสำหรับบริการทางการแพทย์ต่างๆ ตั้งแต่การเข้ารับการตรวจสุขภาพเชิงป้องกันไปจนถึงการนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลและการดูแลฉุกเฉิน ยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ และตัวเลือกการรักษาเฉพาะทาง ประกันสุขภาพอาจรวมถึงผลประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การตรวจสายตาและความคุ้มครองทันตกรรม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแผน เมื่อพิจารณาแผนประกันสุขภาพ สิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบความคุ้มครองและรู้ว่าผู้ให้บริการมีลักษณะอย่างไร เนื่องจากจะส่งผลต่อการเข้าถึงผู้ให้บริการด้านสุขภาพ การรับทราบข้อมูลจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ดีที่สุดในการเลือกประกันสุขภาพที่ตรงกับความต้องการทางการแพทย์ของตัวเอง และในการตัดสินใจเลือก ประกันสุขภาพ เปรียบเทียบ ข้อดีและข้อเสียของแต่ละรูปแบบวงเงินความคุ้มครองว่าแบบเหมาจ่ายหรือแยกจ่ายมีความแตกต่างกันอย่างไร ดังนี้
- ประกันสุขภาพ เปรียบเทียบ ข้อดีข้อเสียของแบบแยกจ่าย
ข้อดีของประกันสุขภาพแบบแยกจ่ายส่วนแรก คือ การไม่กำหนดวงเงินสูงสุดต่อปี ให้เราได้เข้ารับการรักษาได้อย่างไม่มีข้อยกเว้น หากเราเป็นคนที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงนัก ต้องเข้ารักษาตัวด้วยโรคใดโรคหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง เมื่อรักษาโรคนี้หายแล้วก็ต้องเข้ารักษาด้วยโรคใหม่อีก เราสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างไม่ต้องกังวล เพราะมีวงเงินในาการเบิกรักษาที่สามารถเริ่มนับหนึ่งใหม่ได้ หรือในกรณีที่เรารักษาโรคเดิมหายแล้วแต่กลับมาเป็นอีก ถ้ามีระยะห่างในการเข้ารับการรักษาตั้งแต่ 90 วันขึ้นไป ก็สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้เช่นเดียวกัน ข้อดีอีกหนึ่งประการคือ เราสามารถเลือกรับความคุ้มครองได้ตามที่ต้องการและตามกำลังทรัพย์ที่ตัวเองมีได้อีกด้วย เมื่อต้องซื้อ ประกันสุขภาพ เปรียบเทียบ ค่าใช้จ่ายค่าห้องให้มีความเหมาะสมกับโรงพยาบาลที่ใช้บริการอยู่หรือที่คิดว่าจะเข้าใช้บริการกับกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ ก็ช่วยให้เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ด้วยเช่นกัน
ข้อเสียของประกันสุขภาพแบบแยกจ่าย คือ มีวงเงินคุ้มครองที่จำกัดในแต่ละรายการความคุ้มครอง เมื่อมีการกำหนดวงเงินค่ารักษา ทำให้ไม่สามารถให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมได้สำหรับบางคน ไม่สามารถคุ้มครองค่ารักษาที่ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลาได้ ทั้งยังส่งผลกระทบให้เราไม่สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีที่สุดได้อีกด้วย เพราะค่ารักษาอาจมีส่วนต่างที่เหลือเยอะกว่าเดิม จนอาจกระทบกับสภาพคล่องของตัวเอง จึงทำให้เป็นข้อเสียที่เราไม่ควรพลาดเมื่อจะซื้อ ประกันสุขภาพ เปรียบเทียบ รายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้ดีเสียก่อน
- ประกันสุขภาพ เปรียบเทียบ ข้อดีข้อเสียของแบบเหมาจ่าย
ประกันสุขภาพ เปรียบเทียบ ข้อดีของแบบเหมาจ่ายประการแรก คือ ให้เราได้รับการรักษาอย่างอุ่นใจ เนื่องจากประกันสุขภาพเหมาจ่ายมีวงเงินสำหรับการเหมาจ่ายค่ารักษาที่คิดเป็นรายปีให้ เราจึงสามารถเข้ารักษาได้อย่างไม่จำกัด เมื่อมีจำนวนค่าใช้จ่ายที่ไม่เกินวงเงินเท่านั้น ทั้งนี้ ก็เป็นประกันที่ให้เราสามารถเลือกแผนความคุ้มครอง เพื่อรับวงเงินความคุ้มครองสูงสุดที่เหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนวงเงินที่สูงถึงระดับเงินล้าน ทำให้เราไม่จำเป็นจะต้องคอยกังวลหรือคิดมากว่าจะมีค่าใช้จ่ายในเงื่อนไขใดที่เกินวงเงินอีกด้วย
ประกันสุขภาพ เปรียบเทียบ ข้อเสียของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย อย่างแรกที่เรามักทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นประกันที่มีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ยิ่งถ้าเราเลือกแผนความคุ้มครองที่มีวงเงินเหมาจ่ายสูงมาก เราก็ยิ่งจะมีภาระค่าใช้จ่ายเรื่องเบี้ยประกันที่เพิ่มสูงขึ้นตามมาด้วย นอกจากปัจจัยเรื่องวงเงินความคุ้มครองแล้วก็ยังมีปัจจัยอายุของเราที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีด้วย และข้อเสียอีกหนึ่งอย่างของประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายคือ มักจะมีการจำกัดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าห้อง